1.
ผลการศึกษาระดับการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่น ขององค์การบริหารส่วนตำบล
ในเขตอำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งสอดคล้องกับ
สากล ภู่ขันเงิน (2548) ที่ได้ศึกษาวิจัยเรื่อง การมีส่วนร่วมของประชาชนตำบลหนองใหญ่
อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ในการจัดทำแผนพัฒนาองค์การบริหารส่วนตำบล
ผลการวิจัยพบว่า ประชาชนมีส่วนร่วมอยู่ในระดับปานกลาง
ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่าการพัฒนาท้องถิ่นนั้นถึงแม้ประชาชนจะมีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงจุดสุดท้ายก็ตาม
แต่เป็นเพียงการมีส่วนร่วมตามรูปแบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น
แต่สภาพความเป็นจริง การคิด การตัดสินใจ
และการติดตามประเมินผลในการพัฒนาท้องถิ่นนั้นมักจะเป็นเรื่องของผู้นำท้องถิ่นและข้าราชการส่วนท้องถิ่นมากกว่า
เนื่องจากประชาชนยังขาดความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทของตนเองในการเข้าไปมีส่วนร่วมในทางการเมือง
ประกอบกับค่านิยมที่เกรงใจ เกรงกลัวผู้นำท้องถิ่นและข้าราชการ
จึงกลัวที่จะแสดงความคิดเห็น ดังนั้น ในการแก้ปัญหาในบางครั้ง
จึงไม่สนองตอบต่อความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง
ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดเกี่ยวกับปัญหาการมีส่วนร่วมในการพัฒนาซึ่งพบว่า
ประชาชนบางครั้ง เข้ามามีส่วนร่วมในการ พัฒนา เพราะเกิดจากความเกรงใจ
หรือการถูกบีบบังคับจากผู้มีอำนาจหรือภาครัฐ
2.
ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนตำบล
ในเขตอำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี จำแนกตามเพศ อายุ การศึกษา อาชีพ
และรายได้ พบว่า
มีความแตกต่างกันทุกตัวแปร ซึ่งเป็นไปตามสมมุติฐานของการวิจัย โดยผู้วิจัยจะกล่าวถึงประเด็นสำคัญและอภิปรายผลจากข้อค้นพบ
ดังนี้
2.1 การมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนตำบล
จำแนกตามเพศ พบว่า เพศที่แตกต่างกัน
มีส่วนร่วมในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นโดยรวมแตกต่างกัน
โดยเพศชายมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเพศหญิง ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่าขนบธรรมเนียม ประเพณี
วัฒนธรรม และค่านิยมที่เปิดโอกาสยอมรับให้เพศชายเป็นผู้นำ และมีบทบาทหน้าที่ทางสังคม
พร้อมทั้งเป็นผู้มีอิทธิพลในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ของท้องถิ่น
ซึ่งสอดคล้องกับ กิตติม์ บุญชูวิทย์ (2544) ได้ทำการศึกษาวิจัยเรื่อง
การมีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครองของประชาชนในเขตจังหวัดขอนแก่น ผลการศึกษาพบว่า
เพศชายและเพศหญิงมีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครองแตกต่างกัน
2.2
การมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนตำบล
จำแนกตามอายุ พบว่า ประชาชนที่มีช่วงอายุที่แตกต่างกัน
มีส่วนร่วมในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นโดยรวมแตกต่างกัน โดยพบว่า
ประชาชนที่มีช่วงอายุ ระหว่าง 41 – 50 ปี มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าประชาชนในกลุ่มอายุอื่นๆ
ทั้งนี้อาจเป็นเพราะประชาชนที่มีช่วงอายุดังกล่าว
เป็นผู้ที่มีความพร้อมในด้านฐานะทางเศรษฐกิจ และสังคม ภาระส่วนตัวต่างๆ
ทั้งการดูแลบุตรหลานน้อยลง
จึงส่งผลให้มีความสามารถในการเสียสละเวลาเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นมากกว่าประชาชนในกลุ่มอายุอื่นๆ
ซึ่งสอดคล้องกับ เดชอุดม ขุนทอง (2550)
ได้ทำการศึกษาวิจัยการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดทำแผนพัฒนาตำบล: กรณีศึกษาตำบลพิจิตร อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา พบว่า
ปัจจัยด้านอายุมีความสัมพันธ์กับการมีส่วนร่วมในการจัดทำแผนพัฒนาตำบล
2.3
การมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนตำบล
จำแนกตามการศึกษา
พบว่า
ประชาชนที่มีระดับการศึกษาที่แตกต่างกัน
มีส่วนร่วมในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นโดยรวมแตกต่างกัน โดยพบว่า
ผู้ที่มีระดับการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าประชาชนที่มีการศึกษาในระดับต่างๆ
ทุกระดับ
ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่าประชาชนที่มีการศึกษาสูงกว่าจะเป็นผู้ที่ได้รับความน่าเชื่อถือ
และศรัทธาในสายตาของคนในชุมชน ส่งผลให้เกิดความกล้าแสดงออก
ตลอดจนการตัดสินใจที่จะแสดงเจตนารมณ์ในการเข้าร่วมจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นของตนมากกว่าผู้ที่มีระดับการศึกษาน้อยกว่า
ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของ บราวน์ (Brown, 1953: 59 อ้างถึงใน วิวัตน์ ภู่คะนองศรี, 2536: 111) ได้ศึกษาพบว่า
ผู้ที่มีการศึกษาสูงมักจะเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม
อย่างแข็งขันมากกว่าผู้ที่มีการศึกษาต่ำกว่า
2.4 การมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนตำบล
จำแนกตามอาชีพ พบว่า ประชาชนที่ประกอบอาชีพที่แตกต่างกัน
มีส่วนร่วมในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นโดยรวม แตกต่างกัน โดยพบว่า
ผู้ประกอบอาชีพรับราชการหรือรัฐวิสาหกิจ มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าทุกกลุ่มอาชีพ
ทั้งนี้อาจเป็นเพราะกลุ่มอาชีพอาชีพดังกล่าว
มีความเข้าใจและคุ้นเคยกับระเบียบและวิธีปฏิบัติ
ทั้งยังมีความน่าเชื่อถือน่าศรัทธา ในสายตาของประชาชน
จึงส่งผลให้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นมากกว่ากลุ่มอาชีพอื่น
ซึ่งสอดคล้องกับ สมศักดิ์ น้อยนคร (2551) ได้ทำการศึกษาวิจัยเรื่อง
การมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาท้องถิ่นของเทศบาลตำบล ในจังหวัดอุตรดิตถ์ พบว่า
ประชาชนที่มีอาชีพแตกต่างกัน
มีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่นของเทศบาลในจังหวัดอุตรดิตถ์แตกต่างกัน
2.5
การมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนตำบล
จำแนกตามรายได้ พบว่า ประชาชนที่มีรายได้ต่อเดือนแตกต่างกัน
มีส่วนร่วมในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นโดยรวมแตกต่างกัน
ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่าประชาชนที่มีฐานะ ทางเศรษฐกิจดี
มีความพร้อมและต้องการเสียสละเวลามามีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ มากกว่าประชาชนที่มีฐานะทางเศรษฐกิจที่ต่ำกว่า
ซึ่งสอดคล้องกับ
สมศักดิ์ น้อยนคร (2551) ได้ทำการศึกษาวิจัยเรื่อง
การมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาท้องถิ่นของเทศบาลตำบล ในจังหวัดอุตรดิตถ์ พบว่า
ประชาชนที่มีรายได้ตอเดือนแตกต่างกันมีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่นของเทศบาลในจังหวัดอุตรดิตถ์แตกต่างกัน
No comments:
Post a Comment